ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ Google Business ปักหมุด ควรพิจารณาวิธีที่เราค้นหาให้ละเอียดยิ่งขึ้น และพยายามปรับปรุงกระบวนการและให้ผลการค้นหาที่มีความหมายมากขึ้นโดยการเปลี่ยนอัลกอริทึมการค้นหาในท้องถิ่นของ Google เพื่อให้เราค้นหาสิ่งที่หรือผู้ที่เรากำลังค้นหาได้ง่ายขึ้น สำหรับในท้องถิ่น

ค้นหาที่อ้างอิงถึงธุรกิจในท้องถิ่นและสถานที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในสถานที่นั้นในการแสดงภาพแบบคลัสเตอร์ใหม่ซึ่งอยู่ที่มุมบนขวาของหน้าผลการค้นหา แผนที่ที่คุ้นเคยในขณะนี้แสดงแต่ละธุรกิจด้วยหมุดตัวอักษรสีแดง และลิงก์ไปยังแต่ละธุรกิจ และเมื่อคุณเลื่อนหน้าลง แผนที่ Google Business ปักหมุด จะเลื่อนไปพร้อมกับหน้าเพื่อให้มองเห็นได้ตลอดเวลา

นอกเหนือจากวิธีที่เราเห็นธุรกิจที่แสดงบน Google Places แล้ว ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ – Google BoostGoogle Boost เป็นผลิตภัณฑ์ของ Google Business ปักหมุด ที่ช่วยให้ธุรกิจในท้องถิ่นสามารถแสดงได้โดดเด่นยิ่งขึ้นในการค้นหาในท้องถิ่น ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางมีความสามารถในการค้นหามากขึ้น และมุ่งเน้นที่ความเกี่ยวข้องและที่ตั้งของธุรกิจนั้นมากกว่าที่เคยเป็นมา ตอนนี้ผู้ค้นหาจะเห็นการค้นหาสถานที่ที่ได้รับการสนับสนุนปรากฏบนแผนที่ Google Places เป็นหมุดตัวอักษรสีน้ำเงิน และในผลการค้นหาด้วยหมุดเครื่องหมายสีน้ำเงินถัดจากคำอธิบายเนื้อหา

ผลการค้นหาสำหรับ ‘นักบัญชีในเมือง’ จะปรากฏเป็นอันดับแรกใต้รายชื่อผู้สนับสนุนและเหนือรายชื่อทั่วไป สิ่งนี้หมายความว่าในตอนนี้ ผลลัพธ์สำหรับธุรกิจในสถานที่หนึ่งๆ จะปรากฏเป็นกลุ่มกับผลการค้นหาอื่นๆ ทำให้ผู้ค้นหาสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการในพื้นที่ท้องถิ่นได้ง่ายขึ้นมากGoogle รายงานว่าผลการค้นหาสถานที่จะเริ่มปรากฏโดยอัตโนมัติเมื่อ Google ระบุว่าคุณกำลังมองหาผลการค้นหา ‘ธุรกิจในสถานที่’

Google Business ปักหมุด  ยังกล่าวอีกว่า “เราทำให้ผลลัพธ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้เข้าใจสถานที่ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ด้วย Google Business ปักหมุด เรากำลังเชื่อมโยงเว็บไซต์หลายร้อยล้านแห่งเข้ากับสถานที่จริงมากกว่า 50 ล้านแห่ง เราจะระบุโดยอัตโนมัติเมื่อไซต์ต่างๆ กำลังพูดถึงสถานที่จริงและลิงก์คลัสเตอร์แม้ว่าจะไม่ได้ระบุที่อยู่และใช้ชื่ออื่นก็ตาม”

Google Business ปักหมุด กำลังเปิดตัวไปทั่วโลก และจะพร้อมใช้งานทุกที่ใน 40 ภาษาเมื่อเสร็จสมบูรณ์ Google หวังว่าจะให้บริการการค้นหาในท้องถิ่นที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้ ในขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากแหล่งรายได้อื่น ยังเป็นการแข่งขันกับ Facebook Places ที่เปิดตัวได้ไม่นานอีกด้วย Facebook สามารถใช้การโฆษณาที่ตรงเป้าหมายเพื่อให้บริการที่คล้ายคลึงกันแก่ผู้ใช้

Google ควรมีข้อได้เปรียบตรงนี้ เนื่องจากการโฆษณาบน Facebook ส่วนใหญ่จะเป็นแบบแฝง โดยจะปรากฏควบคู่ไปกับเนื้อหาหลัก การค้นหาสถานที่ของ Google เปิดใช้งานอยู่และควรมีความได้เปรียบในด้านการแปลง